วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องที่1


ประวัติและพระนามผู้ที่อยู่ในราชวงศ์พระร่วง-สุโขทัยและ
กรุงศรีอยุธยา
 
ราชวงศ์พระร่วง หรือ ราชวงศ์สุโขทัย เป็นราชวงศ์ที่นักประวัติศาสตร์ใช้เรียกกลุ่มเจ้าผู้ปกครองแคว้นสุโขทัย ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อครั้งสมัยสุโขทัยเรียกชื่อว่าราชวงศ์ใดกันแน่ หากแต่เมื่อรวบรวมหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์แล้ว ก็มักพบว่าผู้คนภายในเขตสุโขทัยหรือบ้านเมืองแว่นแคว้นอื่นมักเรียกพระมหากษัตริย์ของสุโขทัยในนามว่า "พระร่วง" ซึ่งเป็นนามที่รู้จักไปอย่างกว้างขวางของผู้คนกลุ่มไทยในสมัยโบราณ เชื้อสายของวงศ์พระร่วงนี้สืบทอดยาวนานตลอดสมัยสุโขทัย จนตกอยู่ใต้ปกครองของอยุธยาแล้วก็ยังปรากฏอยู่ผ่านความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างอาณาจักร สัญลักษณ์หรืออนุสรณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์พระร่วงที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่าคือ รูปพระร่วง-พระลือ ในซุ้มพระร่วง-พระลือที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียงราชวรวิหาร อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตามความเชื่อของคนรุ่นเก่าแก่ในจังหวัดสุโขทัย ระบุว่า ที่นี่คือนิวาสถานดั้งเดิม หรือต้นกำเนิดของราชวงศ์พระร่วง
ประวัติ
ราชวงศ์พระร่วง เป็นเชื้อสายของพระมหากษัตริย์ชนชั้นปกครองไทยที่มีอำนาจอยู่ในระยะสมัยประวัติศาสตร์ที่เรียกกันว่า "สมัยสุโขทัย" ฐานอำนาจของราชวงศ์พระร่วงก็คือ ศรีสัชนาลัยสุโขทัย ที่เป็นทั้งศูนย์การปกครองรัฐบาลและที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ ความชัดเจนในแง่ความเป็นมาของราชวงศ์นี้ไม่สามารถที่จะชี้ชัดระบุให้แน่นอนลงไปได้ เพราะมีหลักฐานหรือสิ่งที่กล่าวอ้างน้อยมาก พระร่วงในความทรงจำของคนตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลางลงมาเป็นไปในลักษณะที่เรียกว่าตำนานแล้ว เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวอภินิหารและความน่ามหัศจรรย์ ผนวกไปกับเรื่องราวของบ้านเมืองสถานที่ต่างๆ ในแถบกลุ่มอาณาจักรสุโขทัยเดิม (ได้แก่ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย พิษณุโลก กำแพงเพชร ปากยม และพระบาง)
ราชวงศ์พระร่วง เป็นราชวงศ์ที่สถาปนาขึ้นเมื่อคราวพ่อขุนบางกลางหาวทรงราชาภิเษกเป็นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ คำว่าพระร่วงเป็นคำกลางๆ ที่ใช้เรียกกษัตริย์หรือผู้นำแห่งรัฐสุโขทัย โดยคำว่าร่วง แปลว่า รุ่ง (โรจน์) ในสำเนียงไทยกลางจึงตรงกับคำว่า รุ่ง ซึ่งไปพ้องกับสำเนียงล้านช้างที่อ่านว่า ฮุ่ง ซึ่งอาจจะสืบเนื่องกับตำนานท้าวฮุ่ง-ท้าวเจือง อันเป็นวีรบุรุษในตำนานสองฝั่งโขง อย่างไรก็ตามแต่ คำว่าพระร่วงเป็นคำที่คิดขึ้นใหม่เมื่อครั้งสถาปนาวงศ์ มิใช้ราชวงศ์เดิมที่ติดตัวพ่อขุนบางกลางหาว มาแต่ต้น ความหมายของคำว่าร่วงนี้ ต่อมาเป็นพระนามพระพุทธรูปองค์หนึ่งว่า พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธปูชนียบพิตร เป็นการย้ำความหมายให้ ร่วงโรจน์ มีความหมายไปในทางเดียวกับ รุ่งโรจน์ อีกด้วย
ด้วยเหตุความเข้าใจคลาดเคลื่อนนี้ โดยมากจึงคิดกันว่า พ่อขุนศรีนาวนำถุม พ่อขุนผาเมือง ตลอดจนพระมหาเถรศรีศรัทธา ทรงเป็นราชวงศ์พระร่วงเช่นกัน แต่อันที่จริง ทั้งสามพระองค์นี้เป็นราชวงศ์ศรีนาวนำถุม (หรือราชวงศ์นำถุม หรือราชวงศ์ผาเมือง) โดยเอกสารทางวิชาการส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันว่า ต้นวงศ์ (ผู้สถาปนา) คือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และยังสืบเนื่องต่อมาจนถึงพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ซึ่งเชื่อกันว่าสืบมาจนถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่ทรงแยกมาตั้งวงศ์ใหม่ (ราชวงศ์จักรี)
 รายนามและพระนามผู้ที่อยู่ในราชวงศ์พระร่วง-สุโขทัย
บุคคลตามจารึกในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์พระร่วง
  1. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระนามเดิม บางกลางหาว
  2. นางเสือง
  3. พ่อขุนบานเมือง
  4. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
  5. พญาเลอไท
  6. พญางั่วนำถุม (ผสมวงศ์นำถุมทางราชินิกุล)
  7. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท)
  8. พระมหาธรรมราชาที่ 2 (ลือไท)
  9. พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสยลือไท)
  10. พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)
  11. พระมหาเทวี (พระพี่นางในพญาลิไท)
  12. พระศรีเทพาหูราช พระโอรสในพระมหาเทวี และขุนหลวงพะงั่ว (ครึ่งพระร่วง-ครึ่งสุพรรณภูมิ)
  13. พระยาราม (พระเชษฐาพระมหาธรรมราชาที่ 4 ครองศรีสัชนาลัย)
  14. พระยายุทธิษฐิระ (พระโอรสในพระยาราม เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นโอรสในพระมหาธรรมราชาที่ 3อีกต่อหนึ่ง)
  15. สมเด็จพระนครินทราชาธิราช (ครึ่งพระร่วง-ครึ่งสุพรรณภูมิ)
  16. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (ครึ่งพระร่วง-ครึ่งสุพรรณภูมิ)
  17. พระนางสาขา
  18. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (ครึ่งพระร่วง-ครึ่งสุพรรณภูมิ)
  19. ตำแหน่งท้าวศรีจุฬาลักษณ์ของกษัตริย์อยุธยาต้องมาจากราชวงศ์พระร่วง
  20. สมเด็จพระสุริโยทัย
  21. ขุนพิเรนทรเทพ (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  22. พระสุพรรณกัลยา (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  23. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  24. สมเด็จพระเอกาทศรถ (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  25. สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  26. สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  27. สมเด็จพระเชษฐาธิราช (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  28. สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ (ในนามราชวงศ์สุโขทัย)
  29. หม่อมเจ้าหญิงในราชวงศ์พระร่วง สมัยพระนารายณ์มหาราช
  30. หม่อมเจ้าเจิดอุภัย
  31. เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)
  32. พระยาโกษาธิบดี (เหล็ก)
  33. สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
  34. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ในนามราชวงศ์จักรี)
กรุงศรีอยุธยา

กรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2209) วาดโดยบริษัทดัตช์ตะวันออก
กรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่บนบริเวณซึ่งมีแม่น้ำล้อมรอบถึง 3 สาย อันได้แก่ แม่น้ำป่าสักทางทิศเหนือ, แม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกและทิศใต้ และแม่น้ำลพบุรีทางทิศตะวันออก เดิมทีบริเวณนี้ไม่ได้มีสภาพเป็นเกาะ แต่พระเจ้าอู่ทองทรงดำริให้ขุดคูเชื่อมแม่น้ำทั้ง 3 สาย เพื่อให้เป็นปราการธรรมชาติป้องกันข้าศึก ที่ตั้งกรุงศรีอยุธยายังอยู่ห่างจากอ่าวไทยไม่มากนัก ทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลางการค้ากับชาวต่างประเทศด้วย
ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอพระนครศรีอยุธยา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาประวัติ
 จุดเริ่มต้น
ชาวไทยเริ่มตั้งถิ่นฐานบริเวณตอนกลาง และตอนล่างของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18 แล้ว ทั้งยังเคยเป็นที่ตั้งของเมืองสังขบุรี อโยธยา เสนาราชนคร และกัมโพชนคร[4]
ต่อมา ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 อาณาจักรขอมและสุโขทัยเริ่มเสื่อมอำนาจลง พระเจ้าอู่ทองทรงดำริจะย้ายเมืองและพิจารณาชัยภูมิเพื่อตั้งอาณาจักรใหม่ และตัดสินพระทัยสร้างราชธานีแห่งใหม่บริเวณตำบลหนองโสน (บึงพระราม) [5] และสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเป็นราชธานี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล จุลศักราช 712[6] ตรงกับวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 1893[7] (พ.ศ.นี้เทียบจาก จ.ศ. แต่จะตรงกับ ค.ศ. 1351) ชื่อว่า กรุงเทพมหานคร บวรทวาราวดี ศรีอยุธยา มหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานี บุรีรมย์อุดมมหาสถาน[8] ประวัติศาสตร์บางแห่ง[ต้องการอ้างอิง]ระบุว่าเกิดโรคระบาดขึ้น พระเจ้าอู่ทองจึงทรงย้ายเมืองหลวงมายังกรุงศรีอยุธยาทื่มมสทรีเ
การขยายดินแดน
กรุงศรีอยุธยาดำเนินนโยบายขยายอาณาจักรด้วย 2 วิธีคือ ใช้กำลังปราบปราม ซึ่งเห็นได้จากชัยชนะในการยึดครองเมืองนครธม (พระนคร) ได้อย่างเด็ดขาดในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 และอีกวิธีหนึ่งคือ การสร้างความสัมพันธ์แบบเครือญาติ อันเห็นได้จากการผนวกกรุงสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร
การล่มสลายของอาณาจักร
ช่วงสมัยรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เกิดการแย่งชิงราชสมบัติระหว่างพระเจ้าเอกทัศกับพระเจ้าอุทุมพร เนื่องจากพระองค์ทรงเลือกพระอนุชาขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่เป็นไปตามราชประเพณี แต่พระเจ้าเอกทัศก็ทวงบัลลังก์ ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา ครั้นในปี พ.ศ. 2303 พระเจ้าอลองพญาทรงนำทัพมารุกรานอาณาจักรอยุธยา พระเจ้าอุทุมพรทรงถูกเรียกตัวมาบัญชาการตั้งรับพระนคร แต่ภายหลังจากที่กองทัพพม่ายกกลับนั้น พระองค์ก็ได้ลาผนวชดังเดิม
ในปี พ.ศ. 2308 พระเจ้ามังระ บุตรของพระเจ้าอลองพญา ก็ได้รุกรานอาณาจักรอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง โดยแบ่งกองกำลังออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายเหนือภายใต้การบังคับของเนเมียวสีหบดี และฝ่ายใต้ภายใต้การนำของมังมหานรธา และมุ่งเข้าตีอาณาจักรอยุธยาพร้อมกันทั้งสองด้าน ฝ่ายอยุธยาทำการตั้งรับอย่างเข้มแข็ง และสามารถต้านทานการปิดล้อมของกองทัพพม่าไว้ได้นานถึง 14 เดือน แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการล่มสลายได้ กองทัพพม่าสามารถเข้าเมืองได้ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310
 การกอบกู้เอกราชครั้งที่ 2
ครั้นต่อมา พระยาวชิรปราการได้รวบรวมชุมนุมทั้งหมดที่เมืองจันทร์ แล้วได้ขับไล่พม่า และสามารถกอบกู้เอกราชครั้งที่ 2 ได้สำเร็จในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 จากนั้นในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 พระยาวชิรปราการได้ทำพิธีปราบดาภิเษกทำนองเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา (แต่นักประวัติศาสตร์นับเป็นสมัยธนบุรี) เฉลิมพระนามว่า "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4" แต่ส่วนมากคนมักเรียกท่านว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขณะมีพระชนมายุได้ 33 พรรษา ก่อนจะย้ายราชธานีไปยังกรุงธนบุรีเป็นการชั่วคราว
พระราชวงศ์
ราชวงศ์กษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา ประกอบด้วย 5 ราชวงศ์ คือ
1.    ราชวงศ์อู่ทอง มีกษัตริย์ 3 พระองค์
2.    ราชวงศ์สุพรรณภูมิ มีกษัตริย์ 13 พระองค์
3.    ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ 7 พระองค์
4.    ราชวงศ์ปราสาททอง มีกษัตริย์ 4 พระองค์
5.    ราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีกษัตริย์ 6 พระองค์
ซึ่งรวมเป็นกษัตริย์รวม 34 (นับรวมขุนวรวงศาธิราช ) พระองค์ ซึ่งถือว่ามีมาก ซึ่ง อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานีมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 1893 จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2310 เป็นเวลายาวนานถึง 417 ปีเลยทีเดียว กษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา มีดังนี้
พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา

ลำดับ
พระนาม
ปีที่ครองราชย์
พระราชวงศ์
1
1893 - 1912 (19 ปี)
2
สมเด็จพระราเมศวร (พระราชโอรสพระเจ้าอู่ทอง) ครองราชย์ครั้งที่ 1
1912 - 1913 (1 ปี)
อู่ทอง
3
1913 - 1931 (18 ปี)
4
สมเด็จพระเจ้าทองลัน (พระราชโอรสขุนหลวงพะงั่ว)
1931 (7 วัน)
สุพรรณภูมิ
สมเด็จพระราเมศวร ครองราชย์ครั้งที่ 2
1931 - 1938 (7 ปี)
อู่ทอง
5
สมเด็จพระรามราชาธิราช (พระราชโอรสพระราเมศวร)
1938 - 1952 (14 ปี)
อู่ทอง
6
สมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) (พระราชนัดดาของขุนหลวงพระงั่ว)
1952 - 1967 (16 ปี)
สุพรรณภูมิ
7
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) (พระราชโอรสเจ้านครอินทร์ )
1967 - 1991 (24 ปี)
สุพรรณภูมิ
8
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชโอรสเจ้าสามพระยา)
1991 - 2031 (40 ปี)
สุพรรณภูมิ
9
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระราชโอรสพระบรมไตรโลกนาถ)
2031 - 2034 (3 ปี)
สุพรรณถูมิ
10
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระราชโอรสพระบรมไตรโลกนาถ)
2034 - 2072 (38 ปี)
สุพรรณภูมิ
11
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระราชโอรสพระรามาธิบดีที่ 2)
2072 - 2076 (4 ปี)
สุพรรณภูมิ
12
พระรัษฎาธิราช (พระราชโอรสพระบรมราชาธิราชที่ 4)
2076 (5 เดือน)
สุพรรณภูมิ
13
สมเด็จพระไชยราชาธิราช (พระราชโอรสพระรามาธิบดีที่ 2)
2077 - 2089 (12 ปี)
สุพรรณภูมิ
14
พระยอดฟ้า (พระแก้วฟ้า) (พระราชโอรสพระไชยราชาธิราช)
2089 - 2091 (2 ปี)
สุพรรณภูมิ
15
2091 (42 วัน)
อู่ทอง
16
2091 - 2111 (20 ปี)
สุพรรณภูมิ
17
สมเด็จพระมหินทราธิราช (พระราชโอรสพระมหาจักรพรรดิ)
2111 - 2112 (1 ปี)
สุพรรณภูมิ
18
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (พระราชบุตรเขยในพระมหาจักรพรรดิ)
2112 - 2133 (21 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
19
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระราชโอรสพระมหาธรรมราชา)
2133 - 2148 (15 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
20
สมเด็จพระเอกาทศรถ (พระราชโอรสพระมหาธรรมราชา)
2148 - 2163 (15 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
21
พระศรีเสาวภาคย์ (พระราชโอรสพระเอกาทศรถ)
2163 - 2164 (1 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
22
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พระราชโอรสพระเอกาทศรถ) [ต้องการอ้างอิง]
2164 - 2171 (7 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
23
สมเด็จพระเชษฐาธิราช (พระราชโอรสพระเจ้าทรงธรรม)
2171-2172 (2 ปี)
สุโขทัย (พระร่วง)
24
พระอาทิตยวงศ์ (พระราชโอรสพระเจ้าทรงธรรม)
2172 (36 วัน)
สุโขทัย (พระร่วง)
25
2172 - 2198 (26 ปี)
26
สมเด็จเจ้าฟ้าไชย (พระราชโอรสพระเจ้าปราสาททอง)
2198-2199 (1 ปี)
ปราสาททอง
27
สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา (พระราชอนุชาพระเจ้าปราสาททอง)
2199 (3 เดือน)
ปราสาททอง
28
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พระราชโอรสพระเจ้าปราสาททอง)
2199 - 2231 (32 ปี)
ปราสาททอง
29
2231 - 2246 (15 ปี)
30
2246 - 2251 (6 ปี)
บ้านพลูหลวง
31
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 (พระราชโอรสพระเจ้าเสือ)
2251 - 2275 (24 ปี)
บ้านพลูหลวง
32
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พระราชโอรสพระเจ้าเสือ)
2275 - 2301 (26 ปี)
บ้านพลูหลวง
33
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (พระราชโอรสพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)
2301 (2 เดือน)
บ้านพลูหลวง
34
สมเด็จพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศ) (พระราชโอรสพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)
2301 - 2310 (9 ปี)
บ้านพลูหลวง

1 ความคิดเห็น:

  1. Gambling | Casino, Sports, and Hospitality - Dr. Maryland
    Gambling 서울특별 출장샵 is one of the most 정읍 출장샵 important 출장안마 aspects of 여수 출장마사지 life for casino players. In that spirit, Gambling at the Casino has its roots in gambling, and gambling 경상북도 출장마사지

    ตอบลบ